การปกป้องแผ่นดินเป็นพระราชกรณียกิจที่สมเด็จพระเจ้าตากสิน ได้กระทำตลอดพระชนม์ชีพซึ่งนอกจากการต่อสู้เพื่อรวมแผ่นดินแล้วยังต้องป้องกันหัวเมืองชายแดนอีกด้วย
การป้องกันหัวเมืองชายแดน
ตลอดรัชสมัย สมเด็จพระเจ้าตากสินต้องทรงทำสงครามกับพม่าถึง 8 ครั้ง แต่ด้วยพระอัจฉริยะภาพ ทางยุทธวิธีและความเชี่ยวชาญในการรบของทหาร จึงทำให้ทัพไทยรบชนะพม่าทุกครั้ง เช่น
พ.ศ.2310 ทรงตีค่ายพม่าที่โพธิ์สามต้น สามารถยึดกรุงศรีอยุธยาคืนได้ทำให้ไทยเป็นเอกราช ในปีเดียวกันนั้นไทยรบกับพม่าที่บางกุ้ง สมุทรสงคราม พม่าแพ้ต้องถอยทัพกลับมาเมืองทวาย ไทยยึดเรือรบ ของพม่า ตลอดจนอาวุธและ เสบียงอาหารได้เป็นจำนวนมาก
พ.ศ.2317 สมเด็จพระเจ้าตากสินทรงยกทัพไปตีพม่าที่เชียงใหม่เป็นครั้งที่ 2 สามารถขจัดอิทธิพลของพม่าจากแผ่นดินล้านนายกเว้นเชียงแสน
การขยายอาณาเขต
พระราชอาณาจักรไทยในสมัยกรุงธนบุรี ขยายออกกว้างขวางกว่าสมัยอยุธยามากทั้งนี้ เพราะได้เมืองพุทไธมาศ และกัมพูชาเข้ามาไว้ในราชอาณาเขตด้วย
พ.ศ.2319 ไทยได้อาณาเขตลาวใต้ มีนครจำปาศักดิ์ สีทันดร ดินแดนเขมรป่าดงแถบเมืองสุรินทร์ เมืองสังขะและเมืองขุขันธ์
พ.ศ.2321 ทัพไทยตีหัวเมืองรายทางไปจนถึงเวียงจันทน์ ได้เมืองเวียงจันทน์หลวงพระบาง ครั้นเสร็จศึกก็ได้อัญเชิญพระพุทธมหามณีรัตนปฏิมากร พระแก้วมรกตกลับมาไว้ที่กรุงธนบุรีในปีนั้นด้วย
การศึกสงครามดังกล่าวนี้ ส่งผลให้พระราชอาณาจักรไทยเป็นเอกราชและมีความมั่นคงสืบต่อมาจนถึง ปัจจุบัน
อาณาเขตประเทศไทยในรัชสมัยสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช
ในสมัยกรุงธนบุรีได้มีการรวบรวมหัวเมืองต่างๆ เข้ามาในพระราชอาณาจักร ได้แก่ ธนบุรี อ่างทอง สิงห์บุรี ลพบุรี อุทัยธานี นครสวรรค์ ฉะเชิงเทรา นครนายก ชลบุรี ระยอง จันทบุรี ตราด นครชัยศรี นครปฐม สุพรรณบุรี ราชบุรี สมุทรสาคร สมุทรสงคราม เพชรบุรี กาญจนบุรี และประจวบคีรีขันธ์
สมเด็จพระเจ้าตากสิน ได้ทรงต่อสู้เพื่อขยายพระราชอาณาจักรเกือบตลอดรัชกาล อาณาเขตของ ประเทศไทยในสมัยนั้น มีดังนี้
|